ใช้เงินฉลาด เล่นสล็อต ufa sc168 ยิ่งใช้ ยิ่งรวย

• แชร์
• ทวีต
• ไลน์

วิธีใช้เงิน ให้ฉลาด เล่นสล็อต ufa sc168 ยิ่งใช้ ยิ่งรวย แนวคิดปรับปรุงเรื่องการใช้เงิน ใช้อย่างไร แบ่งอย่างไร จัดสรรอย่างไรให้ดีต่อตัวเอง สามารถต่อยอดสร้างรายได้ สร้างความมั่งคั่ง

เล่นสล็อต ufa sc168 ใช้เงินอย่างฉลาด ยิ่งรวย

ufa sc168 สล็อตให้ผลตอบแทนดี มีข้อแนะนำดี ๆ หากท่านสมาชิก ที่ชื่นชอบการเล่นเดิมพัน เว็บพนันออนไลน์ สล็อตออนไลน์ มีความฝันขณะที่วันนี้ยังทำงานประจำอยู่ สิ่งแรกที่จำเป็นต้องเริ่มทำ ไม่ใช่ความรู้ด้านธุรกิจ ไม่ใช่ความรู้ด้านการตลาด ความรู้ด้านการขาย หรือว่าเงินทุนอะไร แต่มันเริ่มจากการใช้เงิน นิสัยการใช้เงิน ดังนั้นถ้าคิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจ สิ่งแรกที่ต้องทำได้ก็คือ ต้องปรับวิธีการใช้เงินก่อน ในชีวิตคนเราจะแบ่งการใช้เงินออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ก็คือการบริโภค และการลงทุน 

• การบริโภค คือการเอาเงินไปใช้จ่ายสำหรับกินใช้แล้วก็หมดไป
• การลงทุน คือการเอาเงินไปใช้จ่ายกับสิ่งที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนกลับมา 

คำถามคือทุกวันนี้เงินเดือนที่ได้รับ คุณแบ่งสัดส่วนการใช้จ่ายเงิน  2 ประเภทนี้ยังไง พนันเลยว่ามนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่แทบจะใช้เงินเดือนทั้งหมดที่ได้มา ไปกับการบริโภคร้อยแปด ไม่ว่าจะเป็นการสังสรรค์ทุกวันศุกร์ การกินหรูอยู่แพง การซื้อของแบรนด์ แล้วก็บอกว่าให้รางวัลตัวเองที่อุตส่าห์ทำงานหนักมาทั้งเดือน ทั้งการจัดสรรบางส่วนมาเล่นเดิมพัน เพื่อความบันเทิง ตามความชื่นชอบ ไม่ได้บอกว่ามันเป็นเรื่องที่ผิด เพราะว่าทุกคนมีสิทธิ์ใช้เงินที่ตัวเองหามา ซึ่งถ้าหากอยากจะเป็นมนุษย์เงินเดือนไปจนตาย ก็ไม่ได้ผิดอะไรหากจะใช้เงินที่หามาทั้งหมดไปกับการบริโภค

แต่ถ้าอยากจะหลุดจากวงจรมนุษย์เงินเดือน อยากจะออกจากสนามแข่งหนู ไม่อยากจะวิ่ง ๆ ๆ ทำงานไปตลอดชีวิต แล้วก้าวเข้าสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจ ต้องไม่ลืมว่าสิ่งที่เป็นวัตถุดิบ หรือสารตั้งต้นในการทำธุรกิจ ไม่ใช่อาหารหรู ไม่ใช่คอนโดแพง ไม่ใช่ของแบรนด์เนมพวกนั้นเลย คุณไม่สามารถเอาอาหารมื้อหรูมาเริ่มต้นทำธุรกิจได้ คุณไม่สามารถเอาของแบรนด์เนม มาสร้างธุรกิจได้ ยกเว้นแต่ว่าเอามันมาขายต่อ ซึ่งส่วนใหญ่เวลาขายต่อมันก็ไม่ค่อยจะได้กำไรมากกว่าตอนที่คุณซื้อมา เพราะว่าอะไร เพราะว่าคุณมีแต่สิ่งของ มีแต่สินค้า แต่คุณไม่มีความรู้เลย คุณไม่มีความรู้ด้านธุรกิจเลย ดังนั้นสิ่งที่เป็นวัตถุดิบ หรือว่าสารตั้งต้นในการเริ่มต้นธุรกิจ มันคือทักษะ ความรู้ ความสามารถ แล้วก็ความเชี่ยวชาญต่างหาก ซึ่งพวกนี้กว่าที่คุณจะได้มามันเป็นสิ่งที่ต้องลงทุน สมมุติว่าวันนี้คุณได้รับเงินเดือนมาประมาณ 20,000 บาท แล้วคุณก็เอาเงินเดือนที่ได้มา ไปใช้จ่ายกับการบริโภคหมด คุณก็จะกลายเป็นคนที่วิ่งอยู่ในสนามแข่งหนูไม่รู้จบ เพราะอาหารหรู คอนโด ของแพง ของแบรนด์เนม มันไม่สามารถให้ผลตอบแทนได้ สุดท้ายคุณก็ต้องกลับไปทำงาน แล้วก็รับเงินทอนที่เหลือจากค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนเหมือนเดิม เผลอ ๆ เงินเดือนแทบไม่เหลือ

ดังนั้นการใช้จ่ายเงินไปกับการบริโภค อาจจะให้ความสุขได้ก็จริง แต่มันก็เป็นเพียงความสุขในระยะสั้นเท่านั้น คุณอยากได้ คุณอยากกิน คุณอยากมี พอคุณกินอิ่ม คุณได้มาความสุขจางหาย ตอนที่ซื้อของแพง คุณอาจจะตื่นเต้นก็จริง แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณก็เบื่อ และถ้าคุณโชคร้ายโดนไล่ออกขึ้นมา คำถามคือคุณจะหารายได้จากไหน ที่สำคัญคือคุณก็เห็นว่าช่วงนี้ แม้ว่าคุณจะทำงานอะไร คุณจะทำธุรกิจ หรือคุณจะทำงานประจำ หรือแม้แต่คุณจะทำอะไรก็ตามแต่ มันไม่มีอะไรแน่นอน ใครบอกว่าการทำงานประจำแล้วจะมั่นคง เห็นโดนเลย์ออฟ โดนลดเงินเดือนกันเต็มในช่วงโควิดแบบนี้ แต่ถ้าคุณเอาเงินไปลงทุนกับความรู้จนมีทักษะอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วพัฒนามันจนเชี่ยวชาญ จนมันสามารถทำเป็นธุรกิจได้ ทักษะเหล่านั้นก็จะกลับมาทำเงินให้คุณ เป็นผลตอบแทนได้แบบไม่รู้จบ แถมยังต่อยอดเพิ่มพูนรายได้ให้อีกต่างหาก ต่อให้วันนี้มีโจรมาขโมยเงินของคุณไปจนหมดไม่เหลือสักบาท คุณก็ยังมีทักษะ ที่สามารถทำเงินให้คุณได้อยู่ดี เพราะทักษะความรู้มันคือทรัพย์สิน ทรัพย์สมบัติที่ไม่มีวันจางหายดังนั้นก่อนที่คุณจะเลือกใช้เงินไปกับอะไร ให้คิดก่อนว่า มันมีโอกาสให้ผลตอบแทนกลับมา มากกว่าเงินที่จ่ายไปหรือเปล่า ยกตัวอย่างวิธีที่ใช้เงิน ตั้งแต่เริ่มทำงานประจำใหม่ ๆ ก็คือ แบ่งเงินออกมา 10% จากเงินเดือน เพื่อใช้ไปกับการลงทุนพัฒนาตัวเอง สมมุติเงินเดือน 15,000 บาท ก็แบ่งออก 1,500 บาท แล้วค่อยเอาที่เหลือ 13,500 บาท ไปใช้จ่ายกับการบริโภคที่จำเป็น โดยการลงทุนนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 Step 

Step ที่ 1 คือต้องค้นหาก่อน 

คำถามที่เกิดขึ้นกับมนุษย์เงินเดือนหลายคนเวลาจะเริ่มต้นทำธุรกิจ คือไม่รู้จะทำธุรกิจอะไร พอถามต่อว่าแล้วตัวเองมีความสามารถ หรือเก่งด้านไหน ก็ตอบกลับมาเหมือนเดิม ว่าไม่รู้เหมือนกันว่า ตัวเองจะทำอะไรได้เก่งบ้าง ไม่รู้เลยว่าตัวเองเก่งด้านไหน ดังนั้นเมื่อคุณไม่รู้ คุณก็ต้องทดลองเพื่อค้นหาไปเรื่อย ๆ เหมือนการชิมอาหาร เราต้องลองชิมหลาย ๆ เมนู จนกว่าจะเจอว่าเมนูไหนถูกปากเรา ซึ่งการทดลองค้นหาตัวเองที่ราคาถูกที่สุดก็คือหนังสือ เพราะว่าหนังสือ 1 เล่มมันคือบทสรุปการเรียนรู้ของชีวิตผู้เขียน ซึ่งบางเล่มอาจจะเป็นทั้งชีวิตของเขาเลยด้วยซ้ำ นั่นหมายความว่าการอ่านหนังสือจบ 1 เล่ม จะสามารถช่วยให้เราประหยัดเวลาได้ถึงประมาณ 40 ปี ในการเรียนรู้ผ่านมุมมองของคนนั้น ๆ

สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ลองหาหนังสือในหมวดที่ตัวเองสนใจก่อน แล้วค่อย ๆ ขยายไปหมวดอื่น ๆ ลองอ่านอะไรที่ไม่เคยอ่าน ถ้ายังไม่มั่นใจก็ไปนั่งอ่านที่ร้านหนังสือก็ได้ ถูกใจเล่มไหนค่อยจ่ายเงินซื้อทีหลัง หนังสือใช้เงินที่จัดสรร ซึ่งตอนแรกที่ให้แยกไว้แล้ว 10% ก็เอาเงินส่วนนี้ไปซื้อ นอกจากนี้สิ่งหนึ่งที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราได้รับจากการทำงานประจำก็คือโอกาส โอกาสในการเข้าร่วมงานสัมมนา งานจัดแสดงสินค้า หรือว่านวัตกรรมต่าง ๆ ซึ่งเราก็ได้ไปในนามบริษัท แน่นอนว่าถ้าเราไม่ทำงานประจำ เราคงไม่ได้ร่วมงานอะไรแบบนี้ และถึงจะได้ร่วมงานจริง ๆ ค่าบัตรผ่านประตูบางทีมันก็แพงมาก งานแบบนี้ช่วยให้ทำธุรกิจได้ดีขึ้นแน่นอน หลังจากอ่านหนังสือไปหลายเล่ม เข้าสัมมนาไปหลายหน ไปเดินงานจัดแสดงหลายครั้ง เหมือนกันตระเวนชิมอาหารไปเรื่อย ๆ เราก็เริ่มค้นพบตัวเองแล้วว่าเราน่าจะชอบเมนูไหนก็จะเริ่มเข้าสู่ 

Step ที่ 2  ก็คือการพัฒนา 

เมื่อมาถึงจุดที่เราเริ่มเห็นลาง ๆ แล้วว่าเราน่าจะชอบอะไร ซึ่งบางคนก็อาจจะรู้ตัวเองตั้งแต่แรกโดยไม่ต้องผ่าน step ที่ 1 มาก่อน แต่บางคนถ้าไม่รู้ว่าชอบอะไรก็ต้องทำ step ที่ 1 ก่อน คราวนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องลงทุน เพื่อพัฒนา และขัดเกลาทักษะนั้นให้มันแหลมคมขึ้น จาก step ที่ 1 เราเน้นศึกษา แต่หากมันขาดการลงมือทำสิ่งเหล่านั้นก็ไม่สามารถทำเงินได้ บางคนอาจจะเริ่มรู้แล้วว่าตัวเองชอบทำขนม บางคนอาจจะรู้แล้วว่าตัวเองชอบทำอาหาร ชอบตัดผม ชอบทำกราฟิก ชอบทำวิดีโอ ชอบเสื้อผ้า หรือแม้กระทั่งค้นพบว่าตัวเองชอบกินชอบเที่ยว แล้วเราก็โชคดีมากที่เราเกิดมาทันยุคที่สามารถนำสิ่งที่เราชอบ แม้ว่ามันจะเป็นเหมือนแค่ไลฟ์สไตล์ อย่างการกินการเที่ยว หรือแม้แต่ชอบเรียนรู้ มันก็สามารถนำมาทำเงินได้ แต่คำถามคือจะทำเงินยังไง

อันดับแรกคือเราก็ต้องดูว่าทักษะอะไรที่จำเป็นกับสิ่งที่เราชอบบ้าง คนที่ชอบทำขนมอาจจะต้องไปเรียนทำขนม แล้วลองทำให้คนที่บ้านกินดู ถ้าเริ่มมั่นใจในรสชาติ ก็ลองเอาไปแบ่งให้เพื่อนบ้าน หรือว่าเพื่อนที่ทำงานก็ได้ ส่วนใครที่อยู่สายค้าขาย กินเที่ยว ก็ต้องไปเพิ่มทักษะการพูด ทักษะการขาย ทักษะการเขียน การตัดต่อ หรือว่าด้านสื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นหากคุณอยากจะสร้างรายได้จากสิ่งเหล่านี้ เพราะว่าถ้าคุณกินเก่ง แต่คุณเขียนรีวิวไม่ได้คุณเที่ยวเก่ง แต่คุณทำคลิปไม่เป็น พูดให้คนเข้าใจไม่ได้ ก็ไม่มีประโยชน์ ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องใช้เงินลงทุนมากหน่อย ถ้าใครมีเงินมากพอก็อยากให้ลงทุนกับมันเลย โดยที่ไม่ต้องเสียดาย มาถึงตรงนี้งานที่เราทำมันจะเริ่มเข้าสู่วงจรทำซ้ำ ๆ ซึ่งจุดนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า คุณจะไปต่อได้ไหมในเส้นทางนี้ หากคุณทำอะไรซ้ำ ๆ แล้วพบว่าทำไปแล้วมันไม่มีความสุข อาจเป็นไปได้ว่ามันอาจจะไม่ใช่ทางของคุณ คุณก็กลับไปเริ่มทำที่ Step 1 ใหม่ ไปเริ่มค้นหาใหม่ แต่ถ้าคุณทำแล้วรู้สึกเพลิดเพลิน แล้วก็มีความสุขไปกับมัน ก็ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องไปต่อ ซึ่งการไปต่อนั้นก็ไปต่อใน

Step ที่ 3  คือการต่อยอด 

เมื่อเราเริ่มทำสิ่งที่ชอบซ้ำ ๆ จนเริ่มมีความรู้ความชำนาญแล้วก็ทักษะในระดับที่สูงขึ้นแล้ว ก็จะสามารถต่อยอดให้กลายเป็นงานแล้วก็สามารถทำเงินได้ อย่างที่บอกว่าเราอยู่ในยุค online ดังนั้นควรจะใช้ศักยภาพของมันให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถ้าคุณชอบทำขนมทำอาหาร ก็ลองเข้ากลุ่มแล้วก็โพสต์แบ่งปันเมนูที่คุณทำ แล้วดู feedback ว่าจะมีคนมาขอสั่งซื้อถามสูตร หรือว่าอยากให้เราสอนบ้างไหม ถ้าคุณชอบขายของก็ลองไปแอบดูว่าในกลุ่มขายของเขาทำอะไรกันบ้าง เมื่อคุณลองทำมาถึงตรงนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือความรู้ที่คุณสั่งสมมาทั้งหมด จะเริ่มผสมผสานกันเป็นตัวตนของคุณ และก่อร่างสร้างฐานขึ้นใหม่ ทำให้สิ่งที่คุณทำนั้นเริ่มมีความเฉพาะตัวมากขึ้น ถ้าคุณทำขนมสูตรขนมของคุณก็จะเป็นแบบเฉพาะตัวมากขึ้น รสชาติอาหารของคุณก็จะเริ่มไม่เหมือนใคร สไตล์การรีวิวอาหารที่มีจริตที่แตกต่าง ลีลาการพูดที่โดดเด่น สไตล์การเขียนที่ดึงดูด เห็นไหมว่าถึงแม้สิ่งที่คุณทำจะเหมือนกับคนอื่น แต่มันจะมีสไตล์บางอย่างที่เฉพาะตัวเสมอ นึกภาพง่าย ๆ เหมือนกับการที่คุณไปกินข้าวกะเพราไก่ 10 ร้าน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นกะเพราไก่เหมือนกันทุกร้าน แต่มันจะมีรสชาติบางอย่างที่แตกต่าง และเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของแต่ละร้านเสมอ หากคุณทำมาถึงตรงนี้คุณจะเริ่มค้นพบว่าเงินที่ลงทุนไปจะสร้างทักษะ ทักษะของคุณก็จะสร้างงาน งานก็จะสร้างเงิน แล้วเงินก็วนกลับมาสร้างทักษะที่สูงขึ้น แล้วทักษะที่สูงขึ้นก็จะสร้างงานที่มีคุณค่ามากขึ้น และงานที่มีคุณค่ามากขึ้นก็จะสร้างเงินที่มีมูลค่ามากขึ้น ก็จะวนเป็นวัฏจักรที่เพิ่มพูนทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงวันที่คุณรายได้แซงงานประจำแล้วสามารถกระโดดเข้ามาทำธุรกิจอย่างเต็มตัวได้ในที่สุด 

มาถึงตรงนี้คุณจะเริ่มแยกไม่ออกแล้วว่าอะไรคืองาน อะไรคือการใช้ชีวิต จากเมื่อก่อนเราต้องแบ่งเวลางานกับเวลาส่วนตัว ต้องทำงานหาเงินก่อนแล้วค่อยใช้ชีวิต แต่ถ้าคุณทำได้มาจนถึง Step ที่ 3 คุณจะพบว่าชีวิตที่เราใช้มันกลายเป็นงาน และทำเงินให้เราได้ด้วย มันโคตรแฮปปี้เลย คือคุณก็ใช้ชีวิตไป ชอบกินก็กินไป ชอบเที่ยวก็เที่ยวไป ชอบเขียนก็เขียนไป ชอบขายของก็ขายไป ชอยการเล่นเดิมพันก็เดิมพันไป กับเว็บที่มีความน่าเชื่อถือ ufa sc168 เว็บเล่นสล็อตออนไลน์ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นชีวิตที่คุณสนุก แล้วอยู่ ๆ มันก็ทำเงินให้กับคุณได้ด้วย มันเป็นชีวิตที่หลายคนใฝ่ฝันเลยจริงไหม ไม่ต้องมาบอกนะว่าโลกสวยมันเป็นไปไม่ได้ความจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น คุณอาจจะคิดแบบนั้นก็ได้ เพราะคุณยังไม่เคยทำได้ แต่ถ้าคุณไปถามคนที่เคยทำได้ เขาก็จะบอกว่าเป็นไปได้ แล้วเขาก็จะบอกแนวทางให้คุณทำด้วย ดังนั้นใครที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ก็ไม่เป็นไร คุณก็ใช้ชีวิตแบบเดิมไป แต่ถ้าคุณคิดว่ามันเป็นไปได้แล้วคุณอยากเป็นจริง ๆ คุณก็ลองเอาแนวทางไปใช้ดู ซึ่งคุณเห็นไหมว่าทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากจุดเริ่มต้นในการเลือกใช้เงินเดือนที่คุณได้มา ว่าจะเลือกใช้ไปเพื่อการบริโภคจนหมด หรือเลือกใช้ไปกับการลงทุนเพื่อสร้างอนาคตของตัวคุณเอง เพื่อนนักพนันยิ่งต้องเข้าใจตรงนี้ และทั้งหากต้องการเว็บพนันที่ดี หากมองหาเว็บพนันบอลออนไลน์ โบนัสดี ๆ ufa sc168 สนใจเดิมพัน สมัครได้เลยที่ : พนันบอลออนไลน์