ทักษะทั้ง 4 ของเศรษฐี ufaเครดิตฟรีไม่ต้องฝาก คนที่เป็นเศรษฐ๊ มีทักษะอะไร ติดตัวบ้างมีการจัดการความคิดตัวเองอย่างไรถึงรวย สร้างแรงจูงใจแบบไหนถึงรวย มุมมอง แนวคิด ของคนรวย เราจะปรับตามอย่างไร ถึงจะดี
มี 4 ทักษะของเศรษฐี ufaเครดิตฟรีไม่ต้องฝาก
4 ทักษะที่ขาดไม่ได้หากคุณต้องการที่จะเป็น เศรษฐี ufaเครดิตฟรีไม่ต้องฝาก การที่คนธรรมดาๆ คนหนึ่งจะกลายเป็นเศรษฐีได้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะจากสถิติของคนรวยทั้งหมดพบว่า คนที่สามารถสร้างฐานะขึ้นมาได้ด้วยตนเอง มีสูงถึงร้อยละ 80 ส่วนอีกไม่ถึงร้อยละ 20 ล้วนมาจากมรดกตกทอด และนี่คือ 4 ทักษะสำคัญที่คุณจำเป็นจะต้องมีและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะทักษะเหล่านี้ จะทำให้คุณกลายเป็นเศรษฐีขึ้นมาได้ในที่สุด และนี่คือคำแนะนำจากมหาเศรษฐีรุ่นพี่ สอนว่าที่เศรษฐีรุ่นน้อง
ทักษะที่ 1 สร้างแรงจูงใจได้ด้วยตนเอง
Mark Cuban มหาเศรษฐีวงการ IT ชื่อดังในรายการธุรกิจระดับโลกอย่าง Shark Tank ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ 4,100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 127,000 พันล้านบาท ได้ให้คำแนะนำว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณค้นพบว่าคุณเก่งหรือถนัดในเรื่องใด จงมุ่งไปในเส้นทางนั้นทันที แต่อย่ามุ่งไปตาม passion หรือความหลงใหล ซึ่่งที่จริงแล้วการที่คุณตาม passion มันอาจไม่ได้ทำให้คุณประสบความสำเร็จเสมอไป โดย Mark Cuban แชร์ให้ฟังว่า ตัวเขาเองมี passion หรือความหลงใหลเกี่ยวกับการเล่นบาสเกตบอลเป็นอย่างมาก แต่เขาค้นพบว่าตัวเองไม่ว่าจะฝึกฝนมากเท่าไหร่ ก็ทำได้ไม่ค่อยดี จนกระทั่งเขาได้เข้าทำงานประจำที่บริษัทแห่งหนึ่ง โดยอยู่ในตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ และเขาก็ทำมันได้ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับคนอื่นเขาเริ่มรู้สึกสนุกไปกับการเขียนโปรแกรมฯ จนกระทั่งเขามีความคิดที่อยากจะสร้างเงินจากการเขียนโปรแกรมฯ เขาจึงตัดสินใจลาออก เพื่อเปิดบริษัทของตนเองแล้วก็พบว่า เขาต้องเรียนรู้เรื่องของการทำธุรกิจ และก็พบอีกว่า เขาทำได้ดีในสายอาชีพของธุรกิจมากกว่าการเป็นพนักงานประจำดังนั้นสิ่งที่ Mark Cuban ทำได้ดีก็คือการเขียนโปรแกรมฯ และการทำให้โปรแกรมฯ ที่เขียนขึ้นมานั้นขายได้
แน่นอนว่าในปัจจุบัน passion หรือความหลงใหลเกี่ยวกับบาสเกตบอลของเขา ก็ยังมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม เขาเลยตัดสินใจซื้อทีมบาสเกตบอลซะเลย โดย ณ ปัจจุบันเขาเป็นเจ้าของทีมบาสเกตบอลในลีก NBA ของทีม Dallas Mavericks แม้นว่าตัวเขาเองจะไม่ได้เป็นผู้เล่น แต่ก็ไม่เป็นไร เป็นเจ้าของแทนเลยก็แล้วกัน ยังไงก็เกี่ยวข้องกับบาสเกตบอลอยู่ดี และในปี 2011 เขาจะพาทีมคว้าแชมป์ NBA ให้กับทีมได้อีกด้วย ดังนั้นหากคุณพบว่าตนเองทำเรื่องอะไรได้ดีกว่าใครๆ จงทำมันให้ดีที่สุดแล้วค่อยเอาเงินมาใช้กับ passion ในภายหลังก็ยังไม่สาย
ทักษะที่ 2 สามารถเล่นเกมธุรกิจในระยะยาวได้
Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Website E-Commerce ยักษ์ใหญ่นามว่า amazon.com (ไม่ใช่เจ้าของเดียวกับกาแฟ Amazon) Website E-commerce amazon.com ได้ทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกคนล่าสุดในปี 2019 โดยมีทรัพย์สินอยู่ที่ 110,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 3.4 ล้านล้านบาท โดยเขาได้ให้คำแนะนำว่า “ ผลของกำไรที่คุณเห็นในวันนี้ ผมไม่ค่อยตื่นเต้นกับมันเลยเพราะสิ่งที่เห็นในวันนี้ คือสิ่งที่เริ่มต้นลงมือทำเมื่อ 3-4 ปีที่แล้วต่างหาก” โดยเข้ามักจะถามความเห็นจากคนที่ชอบวางแผนธุรกิจระดับ 5-7 ปีขึ้นไป เพราะเมื่อคุณมีแนวคิดแบบเล่นเกมระยะยาวแล้ว จะส่งผลให้การกระทำของคนทั้งหมดเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นวิธีการวางแผน วิธีการบริหารจัดการกับเวลา วิธีการมองหาทรัพยากรที่จะทำให้แผนเป็นจริงในเวลาที่กำหนด ซึ่งจริงๆ แล้วค่อนข้างย้อนแย้งกับธรรมชาติของมนุษย์เอามากๆ โดยเฉพาะมนุษย์นั้นเป็นสัตว์ที่รักความสะดวกสบาย ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้แผนระยะยาวเกิดขึ้นได้จริงก็คือการมีวินัย วินัยนั้นจะทำให้คุณรวยอย่างช้าๆ แต่รวยอย่างยาวนานและมั่นคง ไม่ใช่การรวยเร็วหรือรวยแบบฉาบฉวย รายเปรี้ยงปร้างภายในระยะเวลาอันสั้น ตัวอย่างเช่น ในปี 2017 amazon.com มีผลประกอบการที่สูงที่สุดตั้งแต่เปิดธุรกิจมา นับเวลาแล้วกว่า 14 ปี โดยในปีที่ผ่านๆ มา Jeff Bezos มักใช้เงินในการลงทุนกับระบบของ Website การเข้าซื้อกิจการของบริษัทที่เอื้อต่อผลประโยชน์ของบริษัทหลัก ลงทุนในระบบการขนส่งสินค้า ลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งทำให้ตลอดในช่วงระยะเวลา 14 ปีที่ผ่านมา amazon.com แทบจะไม่มีกำไรเลย แต่เมื่อวันเวลาของการออกดอกออกผลมาถึงจึงส่งผลให้ Jeff Bezos กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก โดยโค่นแชมป์อย่าง Bill Gates ที่อยู่ในตำแหน่งนี้มาอย่างยาวนานได้ในที่สุด
ทักษะที่ 3 การเล่าเรื่อง
Kevin O’Leary มหาเศรษฐีชื่อดังจากรายการ Shark Tank ปัจจุบันมีทรัพย์สินอยู่ที่ 400 ล้านเหรียญสหรัฐหรือราวๆ 12,400 ล้านบาท ได้ให้คำแนะนำว่าในรายการ Shark Tank เขาได้มีโอกาสลงทุนในบริษัทของผู้เข้าแข่งขันรายหนึ่ง ทีมของพวกเธอคือ Crazy และ Daniel เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการขาย Cupcakeโดยแพคเกจอยู่ในรูปของขวดโหล ซึ่งทันทีที่รายการ Shark Tank ของพวกเธอ On-air พวกเธอได้เตรียมตัวและตัดสินใจเพิ่มกำลังผลิตในทันที จากเดิมที่พวกเธอมีพนักงานเพียง 7 คน พวกเธอก็หาพนักงานเพิ่มเป็น 39 คน เพื่อเตรียมรองรับ order มหาศาลจากรายการทีวี เพราะพวกเธอรู้ดีว่าเมื่อเทปบันทึกรายการนั้นเผยแพร่มันออกไป มันจะเข้าถึงผู้คนนับล้านภายในพริบตาเวลาเดียว และแน่นอนว่าหากเธอไม่เพิ่มกำลังผลิต
ผลที่ตามมาก็คือ ต่อให้มี order นับล้านบาทรออยู่ตรงหน้า ก็ไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทัน นั่นก็หมายถึงต้องสูญเสียโอกาสในการทำรายได้อย่างมหาศาล แถมในครั้งต่อๆ ไป เมื่อผู้คนที่ order เข้ามาแล้วไม่ได้สินค้า พวกเขาก็อาจจะไม่กลับมาสั่งสินค้าของพวกเธออีกเลยโดยในครั้งนี้พวกเธอได้เรียนรู้อย่างรวดเร็วว่า การที่จะหาลูกค้าใหม่เข้ามาในธุรกิจสักคน มันมีต้นทุนที่สูงมาก ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่าต้นทุนทางการตลาด กว่าจะได้ลูกค้ามา 1 คน จะต้องลงงบการตลาดหัวละ 100 บาท ดังนั้นหากต้องการลูกค้า 10,000 คน หมายถึงพวกเธอจะต้องมีงบประมาณด้านการตลาดอย่างน้อยๆ 1 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่านี่แค่เฉพาะงบทางการตลาดเพียงอย่างเดียว ไม่รวมค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ ที่มากมาย อย่างเช่นต้นทุนในการผลิต Cupcake ค่าแรงพนักงาน แต่ทันทีที่พวกเธอออกทีวี นั่นก็หมายถึงพวกเธอได้ลูกค้ามาแบบฟรีๆ หรือต้นทุนในการได้มาของลูกค้าแต่ละก็คือ 0 บาทนั่นเองคำถามก็คือ
แล้วในเมื่อธุรกิจ Cupcake แทบจะมีอยู่ล้นตลาด มีอยู่นับพันร้าน แถมเป็นขนมที่ใครๆ ก็สามารถทำเองได้ที่บ้านได้ เพราะอะไรทำไมพวกเธอกับขาย Cupcake ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ นั่นก็เพราะพวกเธอเรียนรู้มาแล้วว่าการออกสื่อทีวี หรือรายการโชว์ต่างๆ พวกเธอจะได้ลูกค้ามาแบบฟรีๆ ดังนั้นพวกเธอจะออกสื่ออยู่ตลอดเวลา และสร้างเรื่องราว บอกเล่าเรื่องราว Story telling ในการเริ่มต้นทำธุรกิจ Cupcake เล่าเรื่องราวการทำ Cupcake แสนอร่อยได้ด้วยตนเองที่บ้าน ซึ่งหลายคนคิดว่าการสอนคนอื่นทำอาหารให้เป็น แล้วใครจะซื้อสินค้าของเธอกันล่ะ แต่ตรงกันข้าม ยิ่งพวกเธอเล่าเรื่องผ่านเรื่องราว Cupcake ออกรายการทีวีมากเท่าไหร่ ชื่อของพวกเธอก็ยิ่งแพร่ออกไปมากขึ้นเท่านั้น และกลายเป็นว่า แบรนด์ Cupcake ของพวกเธอนั้น ได้พื้นที่หน้าสื่อ ฟรีๆ อยู่ตลอดเวลา ในขณะที่คู่แข่งของเธอ ยังคงต้องอัดงบค่าโฆษณาอย่างต่อเนื่อง และแพงขึ้นในทุกๆ วัน กำไรก็น้อยลง ในขณะที่ Cupcake ของพวกเธอ ยิ่งมีสื่อให้ความสนใจมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีกำไรมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งทำให้ผลิตสินค้าได้มากขึ้นรวยมากขึ้น รวยเร็วขึ้น ทำให้ทิ้งห่างคู่แข่งไปแบบตามกันไม่ทันเลยทีเดียว ซึ่งจุดเริ่มต้นความสำเร็จของ Cupcake ของพวกเธอ ก็คือการเล่าเรื่องราวต่อหน้า Kevin O’Leary ให้สนใจลงทุนในธุรกิจของพวกเธอ โดยพวกเธอมีเวลาเพียง 90 วินาทีเท่านั้น
ทักษะที่ 4 รายล้อมไปด้วยคนที่เจ๋ง ๆ
Sean Combs นักร้องแร๊ปชื่อดัง เชื้อสายอเมริกัน ปัจจุบันเป็นเจ้าของธุรกิจค่ายเพลง โดยมีทรัพย์สินอยู่ที่ 825 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 25,000 ล้านบาท ได้ให้คำแนะนำว่า สาเหตุที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างสูงในวันนี้เป็นเพราะ เขามีทีมงานที่ดี โดยเขายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า หากมีเพียงแค่ตัวเขาเป็นคนเดียว ยังไงเขาก็ไม่มีทางมาถึงจุดนี้ได้เลย เพราะภายในบริษัทของเขา เขาจะเก็บรักษาคนที่ support เขา คนที่ให้แรงบันดาลใจในการทำงานแก่เขา คนที่คอยให้คำแนะนำได้ดีกว่าเขา โดยSean Combs ได้แนะนำว่า หากคนใกล้ตัวของคุณไม่สามารถให้สิ่งเหล่านี้คุณได้ จงหลีกหนีให้ห่างจากพวกเขาซะ โดย Sean Combs ได้ยกตัวอย่างว่า หากคุณรายล้อมไปด้วยเหล่าบรรดา Gangster อีกไม่นานคุณก็จะไปลงเอยในคุกที่ไหนสักแห่งหนึ่ง หากคุณรายล้อมไปด้วยคนที่ชอบดูถูก ชอบอิจฉา ชอบคิดลบ ในเวลาไม่นานคุณก็จะกลายเป็นคนแบบพวกเขา ที่มองเห็นแต่ด้านร้ายๆ ด้านลบๆ หากคุณรายล้อมไปด้วยคนจน คุณก็จะจนต่อไป และหากคุณรายล้อมไปด้วยคนรวยอีกไม่นานคุณก็มีโอกาสที่จะเป็นคนรวยได้ในที่สุด
นี่ก็คือ 4 ทักษะสำคัญของมหาเศรษฐีที่ต้องมีและขาดไม่ได้ โดยเป็นคำแนะนำจากมหาเศรษฐีรุ่นพี่ 4 แบบ 4 สไตล์ ที่มาสอนเศรษฐีรุ่นน้องคนต่อไป มักเป็นสิ่งที่มีผลต่อผลการแข่งขันเป็นอันมาก เพื่อนนักพนันยิ่งต้องเข้าใจตรงนี้ เพื่อนำไปปรับใช้ ปรับความคิดตัวเอง เพื่อก้าวสู่ ความเป็นเศรษฐี และทั้งหากต้องการเว็บพนันที่ดี มีโปรโมชั่นมากมายตอบสนองความต้องการมรการเดิมพันได้ดี มองหาเว็บพนันบอลออนไลน์ โบนัสดี ๆ ufaเครดิตฟรีไม่ต้องฝาก สนใจเดิมพัน สมัครได้เลยที่ : พนันบอลออนไลน์
